ว่าด้วยเรื่อง 'ดินสอ' ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ประวัติ

‘ดินสอ’ หนึ่งในเครื่องเขียนต้นๆ ที่เราต่างเคยใช้ขีดเขียน วาดภาพ แรเงา คอยให้ความสะดวกสบายแก่เราในหลายๆ เรื่อง
.
แต่จะมีใครในที่นี้รู้บ้างล่ะคะว่า ดินสอนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง จนพัฒนามาเป็นเครื่องเขียนให้เราใช้ขีดเขียน จดบันทึก มาจนถึงทุกวันนี้
.
ถ้าอยากรู้… สยามจุลละมณฑลจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
.
.
#จุดกำเนิดและประวัติของดินสอ เริ่มเมื่อประมาณ 400 กว่าปีก่อน
.
ในปี ค.ศ.1564 เกิดเหตุพายุใหญ่ในทุ่งเลี้ยงแกะ ที่ประเทศอังกฤษ ต้นไม้ถูกพายุพัดถอนรากถอนโคนเป็นจำนวนมาก เมื่อพายุสงบ ชาวบ้านพบหินสีดำอยู่ใต้ดิน ณ บริเวณรากของต้นไม้ที่โค่นล้ม หลังจากทดลองนำมาขีดเขียน ปรากฏว่ามีความคมชัดดี ไม่ต่างจากน้ำหมึก คนเลี้ยงแกะจึงนำมาเขียนสัญลักษณ์ลงบนตัวแกะ จากนั้นจึงมีการนำมาใช้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะทำเครื่องหมายบนสินค้าเพื่อบอกรายละเอียดอย่างชนิด จำนวน และราคาของสินค้านั้นๆ
.
ซึ่งหินสีดำที่ค้นพบในครั้งนั้นคือ แกรไฟต์ (Graphite เป็นคาร์บอนชนิดหนึ่ง) จึงเรียกได้ว่านี่เป็นการค้นพบวัสดุที่ใช้ทำไส้ดินสอได้ดีโดยบังเอิญก็ว่าได้
.
.
แกรไฟต์ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งใช้เขียนใช้วาด หรือแม้แต่เป็นส่วนผสมในกระสุนปืนใหญ่ เนื่องจากช่วงเวลานั้นมีสงครามน้อยใหญ่มากมายเกิดขึ้นในยุโรป จนในที่สุดแกรไฟต์ก็ขาดตลาด
.
กระทั่งในปี ค.ศ.1795 นิโคลาส แจ็ก คอนเต้ หัวหน้านักเคมีและนักประดิษฐ์ชั้นแนวหน้าของฝรั่งเศส ค้นพบวิธีการบดแกรไฟต์โดยนำมันมาผสมเข้ากับดินเหนียวและน้ำ ทำให้คล้ายก้อนแป้งเปียก ก่อนจะนำไปกดลงแม่พิมพ์แล้วเผา
.
ซึ่งในยุคแรกแท่งแกรไฟต์จะถูกใช้แบบเพียวๆ ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับความสกปรกเลอะเทอะ คนยุคนั้นจึงมักใช้เชือก กระดาษ หรือผ้า พันแกรไฟต์ไว้ก่อนจะเขียน ภายหลังมีการคิดค้นวิธีการนำไม้มาประกบเข้ากับไส้ดินสอ มนุษย์จึงเริ่มมีดินสอไม้ที่กลายเป็นต้นตำรับของดินสอมาจนถึงปัจจุบัน
.
.
และนี่เป็นสรุปสั้นๆ ที่ทางเรานำมาเล่าให้ทุกคนได้รู้ถึงจุดกำเนิด ที่มาที่ไปของเจ้าดินสอที่เราใช้กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ